สวัสดีกุสุมาลย์ : ตะเว็นหยอกผะอายข้าวหอมห่วยห่วย แดดเฉียงขึ้นแลสลวยเย้าสมัย อรุณ ณ แดนกุสุมาลย์สำราญใจ แล้งปานใดยังมีกินแกมดิ้นรน ผักหวานดอกกระเจียวเย้าแมงแคง บอกมดแดงออมไข่ไว้หยอกฝน หอมข้าวนึ่งอวยอวนยวนกมล หัวใจหล่นใต้ถุนเรือนยามเยือนเอย
หนังประโมทัยกุสุมาลย์ ลมหายใจที่กำลังรวยริน
เสียงซอซ้อนพิณแคนกับกะโหล่ง ประโมทัยถิ่นเค้ายังคงค้างหว่างสมัย
ไทซุมบ้านเมืองเฮาบ่แนมเบิ่ง เสียงหันใจห่างฮ้ายไผสิเอื้อพวกปู่ลุง
แม่นเด๋เนาะยาย..ข้าวน้ำซ่ามปลาหลายมาแต่ได๋ ตาแฮกแรกนาพาอุ่นใจ ว่าจะไคเหมือนทุกปีทางมีกิน ได้ข้าวได้น้ำก่อกรรมดี อวยทานบัดพลีทวีสิน แถนไท้สมทบพรในเพลงพิณ แดนดินคงอุดมคงสมบูรณ์
แม่นบ่อ้าย..นี่คือวิถีความมีกิน หาได้ในแดนดินถิ่นอาศัย ปันแบ่งเอื้อกันและกันไป จึงมีกินและเติบใหญ่โดยใยดี
แสงตาวันเพิ่งจับเรือนยอดไม้ คนหลายเรือนเคลื่อนไหวไวและหวัง ได้ติบข้าวก้าวลาเรือนเหมือนชินชัง ยามเห็นฝั่งฟากทางเหมือนอย่างจะดี แวะตลาดโดยตลอดจอดจับจ่าย ซื้อของกินอันเรียงรายคุ้นกลิ่นสี จากนั้นจ้ำจำจักเร่งจรลี งานเงินมีมากมายแถวในเมือง
แม่นบ่อาว ชีวิตมีเรื่องราวหลากและหลาย อันนั้นอันนี้มีต้นปลาย ย่ายายปู่กะตาเคยว่าเป็นกลอน อยากให้โลกโศกรันทดสลดสุด ก็ร่ำให้อย่าหยุดแหละขวัญอ่อน อยากให้หล้าฮาเฮก็เห่พร ขับลำอ้อนต่อเต้ยเอยโอเพลิน
credit by FB :https://www.facebook.com/gorbhonggp
: ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์